บทความที่ได้รับความนิยม
-
การเดินทางกลับมาจันทบุรีอีกครั้งของนายณรงค์ ปรีดารัตน์ กับบ้านลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ การเดินทางครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีเรื่องราวอะไรกั... -
ภาพวาดเล็กๆ ที่ติดตรงมุมขวาด้านบนของเวบแห่งนี้ เ็ป็นเหมือนดังโลโก้ ซึ่งภาพนี้ มีที่มา และมีความหมาย เป็นภาพที่วาดเมื่อ 26 กุมภา... -
ผลงานวิดีโอของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า กับสกู๊ป ค้นคนดีของพ่อ "ตัวตนบนเส้นทางปราชญ์ชาวบ้าน ของสุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ซึ่งได้มาสัมภาษณ์และเก็...
-
เมื่อเข้าสู่โลกออนไลน์ดูเหมือนอะไรๆก็จะตามมาด้วยเช่นกัน ยิ่งระบบโซเชี่ยนเน็ตเวิร์คด้วยละก็ ก็ต้องบอกว่าช่วงนี้เขามาแรงจริง แต่เราก็มิอาจ...
-
"ผมกำลังอยากจะสื่อว่า ชาวแสลงจะรักษาดาบนี้ไว้ต่อไป ผมพยายามไปสืบหาข้อมูลจากผู้รู้บางท่าน ก็เสียชีวิตไปแล้ว เค้าบอกว่า คนที่สร้างวัดแส... -
หลายคนเมื่ออายุมากขึ้น มักจะหลงลืมหลายอย่าง แต่ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ซึ่งปัจจุบันอายุ 67 ปี ยังคิด เขียนเพลง บทกวี มีเรื่องเล่ามากม...
-
หากผลงานเปรียบเสมือนต้นไม้ที่ให้ดอกผล ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องเติบโตก้าวหน้าตามวันเวลาที่ผ่านไป การทำงานทุกอย่างก็เ่ช่นกัน ผลงานที่ได้ย่อมนำมาข... -
* ยิ่งขุดลึก ลงไป ยิ่งได้เห็น การขุดค้น ยิ่งเป็น สีสัน ดูเครื่องปั้น ดินเผา ฝีมืองาน การตกแต่ง ลวดลายนั้น เริ่มพัฒนา * ลวดลายเน้น ใช้การขุ...
รายการบล็อกของฉัน
วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554
ความพยามของลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ไม่เคยลดระ
การเดินทางกลับมาจันทบุรีอีกครั้งของนายณรงค์ ปรีดารัตน์ กับบ้านลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ การเดินทางครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีเรื่องราวอะไรกับงานที่เราจะทำ แต่ในใจจริงแล้ว ก็อยากจะกลับมาสอนเรื่องไอทีกลับลุงสุเวศน์เพิมเติม หลังจากเราได้ตั้งสถานีวิทยุและโทรทัศน์ออนไลน์ ให้กับลุงสุเวศน์ ไปเมื่อต้นเดือนที่แล้ว แต่กลับคาดไม่ถึงว่าคุณลุงสุเวศน์ท่านได้พยามรียนรู้การปิดเปิดสถานีพร้อมด้วยติดตั้งโปรแกรมต่างด้วยตนเอง อย่างไม่คาดคิด จนทำให้เรากลับงง
 |
| ลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ |
แล้วอึ้ง...อยู่พักใหญ่ จนเรามาถึงคุณลุงได้ปิดเปิดจนคล่องไปหมดแล้ว นึกอยู่ในใจว่าอืม...คุณลุงมีความพยายามสูงจริงทั้งที่อายุปาจะไปหลัก 70 แล้ว แต่ความพยามของคุณลุงไม่เคยลดละความพยายามเลย เห็นไหมละครับว่าการที่เราพยามทำอะไรขึ้นมาสักอย่างถึงแม้แต่ไม่มีความรู้และไม่มีพื้นฐานเลย แต่เรามีความพยายามในที่สุดเราก็เอาชนะกับสิ่งเหล่านั้นได้เหมือนกับคุณลุงสุเวศน์นี่ไงละครับ
หลังจากได้เห็นความพยายามความมะนะของคุณลุงสุเวศน์แล้วมันน่าทึ่งเสียจริงๆ หลังจากนั้นผมก็ได้นั่งพูดคุยกับคุณลุงต่อพอคุยได้สักพักคุณลุงก็ชวนกินข้าวคุณลุงก็ยกกับข้าวมานั่งกินกันสองคนกินกันไปคุยกันไป จนในที่สุดคุณลุงแกก็บอกว่า ผมอย่างเรียนตัดต่อภาพบ้างจะได้ไหม คุณลุงบอกว่าถ้ามผมได้ทำสิ่งได้ต่อไปงานของผมจะเร็วมากและจะช่วยชาวบ้านได้มากเลยทีเดียว และวิทยุและโทรทัศน์ของลุงก็จะสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น และมีข่าวสารของชาวบ้านที่เร็ว เพราะชาวบ้านเขาจะทำอะไรผู้หลักผู้ใหญ่ให้ความสำคัญน้อย บางที่บางเรื่องบางราวเราก็ช่วยเขาได้มากเลยทีเดียว เห็นไหมละครับว่าความคิดของคุณลุงไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลยทีเดียว ความคิดช่างน่าสนใจจริงๆเลยนะคุณลุง แล้วแบบนี้เราจะไม่สนับสุนทางด้านความคิดของคุณลุงเพิ่มเติมได้อย่างไรละใช่ไหมละครับพี่น้อง......
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://suwetsuwet.blogspot.com/
ณรงค์ ปรีดารัตน์ รายงาน
http://narongoho.blogspot.com/
วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
ลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ กับความตั้งใจกับสิ่งที่อยากทำ
เมื่อเข้าสู่โลกออนไลน์ดูเหมือนอะไรๆก็จะตามมาด้วยเช่นกัน ยิ่งระบบโซเชี่ยนเน็ตเวิร์คด้วยละก็ ก็ต้องบอกว่าช่วงนี้เขามาแรงจริง แต่เราก็มิอาจที่จะปฏิเศรษฐมันได้ เอากันแบบว่าเข้าไปบ้านไหนจะต้องเห็นคอมพิวเตอร์แทบทุกบ้านเลยทีเดียว นั่นไงว่าแล้วว่าเขามาแรงจริง
นี่ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่คุณลงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ อายุเข้าไปในวัย ๖๐ กว่าขวบเข้าไปแล้วยังต้องมาให้ความสนใจของระบบโซเชี่ยนเน็ตเวิร์คอีกคนหนึ่งที่เราอาจจะปฏิเศรฐมันไม่ได้ เมื่อคุณลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ท่านได้เป็นศิลปินนักร้องในระดับท้องถิ่นแต่ก็ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับนักร้องจากค่ายดังๆ แต่ลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ก็เป็นศิลปินระดับจังหวัดแห่งเมืองจันทบุรี เอาเป็นว่าใครเอ่ยชื่อลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ขึ้นมาทีไรก็เป็นอันว่าชาวจังหวัดจันทบุรีก็ต้องรู้จักกันดีเลยทีเดียว
ด้วยการที่คุณลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ให้ความสนใจกับคอมพิวเตอร์แต่ก็ยังไม่ถึงกับเป็นผู้เชียวชาญอะไรมากนัก ก็พอที่จะเปิดและปิดเครื่องได้พอพิมพ์งานได้ พอที่จะทำอะไรๆได้บ้างแต่ก็ยังไม่เชี่ยวชาญมากนัก นั่นก็คือความมานะและความอดทนผสมสานด้วยการเรียนรู้ด้วยตนเอง ดูคุณลุงสุเวศน์ อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆ
ด้วยความที่สนใจทางด้านคอมพิวเตอร์ จนทำให้ลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ กำลังมองว่าจะทำอย่างไรถึงจะมีสื่อเป็นของตัวเองแล้วจะทำยังไงดีเพราะว่าจะทำอะไรแต่ละทีต้องใช้เงินแกคิดว่าไม่มีเงินจะทำอะไรก็ลำบาก แกก็อยากจะทำวิทยุและทีวีออนไลน์ ผ่านอินเตอร์เน็ตเป็นของตนเอง และให้ชาวโลกได้รู้ว่าเราก็มีสถานีวิทยุและทีวีออนไลน์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตเป็นช่องของตนเองอยู่เหมือนกัน ด้วยคุณลุงสุเวศน์ ก็ได้มีเพื่อนซี้อย่างไก่ แมลงสาบ ซึ่งเป็นผู้ขวางขวางในวงการจิตกุสาธาณะกุศล ก็ไม่รอช้าก็ได้แนะนำให้รู้จักกับอย่างนายณรงค์ ปรีดารัตน์ ซึ่งเป็นผู้รู้พอมีความเชี่ยวชาญชาญทางด้านระบบโซเชี่ยนเน็ตเวิร์คพอสมควร ด้วยการที่นายณรงค์ ปรีดารัตน์ ซึ่งเป็นผู้รู้ทางด้านไอทีนนายไก่ แมลงสาบก็ไม่รอช้า เรียบประสานงานให้ทันที เผื่อบางทีจะมีของดีให้คุณลุงได้ใช้กับเขาบ้าง
ด้วยอยู่มาวันหนึ่งนายณรงค์ ปรีดารัตน์ ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทันทีก็เรียบรับสายปรากฏว่า นายไก่ แมลงสาบโทรมา บอกว่า เอ้ย..นายณรงค์ แกไปช่วยติดตั้งทีวีออนไลน์ ให้ลุงสุเวศน์ให้หน่อยซิ แต่เราไม่มีค่าใช้จ่ายวะจะทำยังไงดีช่วยได้ไหม แล้วอย่างนายณรงค์ ปรีดารัตน์ ที่มีจิตใจสาธารณะการกุศลอยู่จะปกเสฐได้หรือ แล้ว ก็เอ่ยปากไปว่าไม่มีปัญหาพี่ ขอเช็ควันว่างก่อนคับแล้วจะขึ้นไปทำให้ ที่จังหวัดจันทบุรีนะ ตกลงจะไปทำให้ ได้ใช้แน่นอนนายณรงค์กล่าว
ด้วยจากระยองบ้านเกิดของนายณรงค์ ปรีดารัตน์ เดินทางไปสู่จังหวัดจันทบุรี ไปกลับระยะทางก็ประมาณ ๒๐๐ กว่ากิโลเลยทีเดียว แล้วอย่างนายณรงค์ พอเป็นผู้รู้อยู่บ้างในการทำสถานีวิทยุและทีวีออนไลน์ แต่การกะตังเติมน้ำมันที่จะไปทำให้นี่ดิเป็นเรื่องใหญ่เลยที่เดียว แต่อย่างนายณรงค์ รับปากแล้วต้องไปอย่างแน่นอน
พอมีวันว่างปุ๊บหยิบโทรศัพท์ โทรหานายไก่ แมลงสาบ ทันที่ ว่าพี่ไก่ว่างไหมช่วยขับรถไปส่งที่จังหวัดจันทบุรีทีดิ จะไปทำวิทยุออนไลน์ให้ลุงสุเวศน์ เพราว่ารถนายไก่เติมแก๊ส แอลพีจี วิ่งไปจันทบุรีแค่นี้สบายมากนายไก่รับปากทันที
จากนายไก่ถึงนายณรงค์ ก็ไม่รอช้าขับรถมุ่งเข้าสู่จังหวัดจันทบุรี ทันทีเพื่อที่จะไปติดตั้งระบบวิทยุออนไลน์และระบบทีวีออนไลน์ให้กับบ้านลุงสุเวศน์ พอไปถึงบ้านลุงสุเวศน์ คุณลุงก็ได้ให้การต้อนรับอย่างดีมีน้ำใจอันงดงามจนเราต้องสงบนิ่งไประยะหนึ่งเลยทีเดียว เพราะเจอกับการต้อนรับของคุณลุงสุเวศน์บริการดีมีน้ำใจช่างงดงามเสียเหลือเกิน หลังจากนั่งดื่มน้ำได้สักระยะหนึ่ง นายณรงค์ ก็เริ่ม เช็คเครื่องคอม ปรากฏว่า เจ้าข้าเอ๋ย..อะไรหว่า เป็นเครื่องรุ่นไหนวะนี่ยังกะที่สมัยเกือบสงครามโลกครั้งที่สองเลยที่เดียว ฮาดดิสมีความจุอยู่ ๕ จิ๊ก แรมก็เป็น เอสดีแรม มีอยู่ 32 เม็กเท่านั้นเอง แล้วมันจะทำวิทยุละทีวีออนไลน์ได้อย่างไรหว่า แล้วนายณรงค์ จะทำอย่างไรต่อดีหว่าหลังจากนั้นก็เล่าให้คุณลุงฟังถึงเรื่องเสป็คเครื่อง ว่าเสป็คเครื่องอย่างนี้มันยังทำไม่ได้นะ คุณลงก็เข้าใจ หลังจากนั้นนายไก่กับนายณรงค์ก็เดินทางกลับแยกย้ายกันกลับบ้านไป เอางานนี้ประสบความล้มเหลวและความตั้งใจของคุรลุงสุเวศน์อย่างมาก
แล้วอยู่มาอีกสักระยะหนึ่งที่จังหวัดจันทบุรีได้มีฝนตกฟ้าคะนองอย่างกับปีศาจร้ายได้มีฟ้าฝ่าเปรี้ยงลงมา จนทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณลุงสุเวศน์ได้รับความเสียหายพร้อมกับเราเตอร์อีก ๑ ตัว ได้รับความเสียหายใช้งานไม่ได้ทันที จนทำให้ลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ เครียดเป็นอย่างมาก ต้องประความล้มเหลวเป็นครั้งที่สองอีกอย่างสิ้นเชิงด้วยเครื่องของแกนั่นละ แต่หนักกว่าครั้งแรกเป็นอย่างมากเพราะว่าคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตไม่สามารถใช้งานได้เลย จนทำให้ลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ เครียด.........ไปอยู่หลายวันเลยทีเดียว
แต่อยู่มาอีกไม่นานโชคร้ายผ่านไปมันก็ต้องมีโชคดีเข้ามาบ้าง คุณลุงสุเวศน์ ได้มีผู้ใจบุญได้มอบเครื่องคอมมาให้ใช้ ๑ เครื่อง แต่เป็นเครื่องค่อนข้างที่ดีกว่าของเดิมมากเลยทีเดียว ระดับเพ็นเที่ยมโฟเลยที่เดียว แต่เป็นของที่ใช้แล้วนะ พอได้มาเท่านี้ลุงสุเวศน์ก็ดีใจ เรียบโทรไปหานายไก่ แมลงสาบอีกครั้ง เพื่อที่จะให้โทรบอกนายณรงค์ มาช่วยติดตั้งให้อีกที
พอนายไก่ได้รับได้รับโทรศัพท์จากลุงสุเวศน์ ก็เรียบโทรมาหานายณรงค์ทันที แล้วบอกนายณรงค์ว่า เอ้ย..ณรงค์ ลุงสะวศน์ เขาได้เครื่องคอมใหม่แล้วนะ แกช่วยไปดูและติดตั้งให้ทีดิ นายณรงค์ได้รับโทรศัพท์ ก็รับปากทันทีพร้อมที่จะไปติดตั้งสถานีวิทยุและทีวีออนไลน์ให้คุณลุงสุเวศน์ที่ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้
แล้วอยู่อีกไม่กี่วันนายไก่ แมลงสาบก็โทรมาบอกนายณรงค์ว่า นายณรงค์เราจะไปส่งที่บ้านลุงสุเวศน์ที่จันบุรีเองนะ ให้เตรียมอุปกรณ์และของให้พร้อม นะ อย่างนายณรงค์ก็รับปากทันทีอย่างไม่รอช้า เพื่อที่จะไปสู่เป๊าหมายของลุงให้สำเร็จ
พอวันรุ่งขึ้นนายไก่ กับนายณรงค์ ก็เดินทางจากระยอง ขึ้นมาบ้านลุงสุเวศน์ที่จันทบุรีกันอีกเพื่อที่จะติตั้งให้สถานีวิยุและทีวีออนไลน์ ของคุณลุงได้ใช้งานได้ พอเดินทางมาถึงบ้านลุงแห่งจังหวัดจันทบุรี ก็ให้การต้อนรับจากคุณลุงสุเวศน์เป็นอย่างดีอีกครั้งหนึ่ง พอกินน้ำกันเสร็จก็ได้นั่งคุยกันพอหายเหนื่อยได้สักระยะหนึ่ง นายณรงค์ก็ลงมือทำ พอทำได้สักพักหนึ่งติดตั้งสตีมมิ่งอะไรต่อมิอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะทำการทดลองออกอากาศ เจ้ากรรมเอ้ย..เราเตอร์ดันโดนฟ้าผ่าได้รับความเสียหายไปเสียด้วย กรรมเวรจิงๆๆ แล้วเราจะทำอย่างไรดีหว่าเราเตอร์สำรองก็ไม่มี จนทำให้ไม่สามารถติดตั้งอินเตอร์เน์ตได้อีก แล้วก็ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จและความล้มเหลวเป็นครั้งที่สองอีกเช่นเคย แล้ว นายณรงค์ ได้ดูเราเตอร์ อะชะอยู่ในช่วงประกันนี่หว่า นายณรงค์ก็รับปากกับลุงสุเวศน์ ทันที่ที่จะนำเราเตอร์นำส่งเครมประกันให้
หลังจากนั้นก็หยุดทำงานเพราะงานไม่สามารถทำอะไรต่อได้ก็เลยถือโอกาสนั่งคุยกับลุงสุเวศน์ เสียเลยฮ่า๐๐๐ๆ พอคุยได้ที่กับลุงสักพักใหญ่นายไก่กับนายณรงค์ก็ลาลุงเดินทางกลับระยอง นายไก่ก็กลับชลบุรี แต่งานไม่ประสบความสำเร็จอีกเช่นเคย
แต่พอกลับมาบ้านลุงสุเวศน์ จากจันทบุรี และได้ส่งเครมเราต์เตอร์กับบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พอนานณรงค์ กลับมาถึงบ้านนั่งคุยกับเพื่อนได้สักพักหนึ่งก็เล่าถึงเรื่องลุงให้เพื่อนๆฟัง เพื่อนๆ ก็ถามว่า อ่าวแล้วเราเตอร์ที่ณรงค์ถอดออกเปลี่ยนครั้งที่แล้วไปไหนละ เท่านั้นเองก็ถึงบางอ้อ... ทันใดนั้นนายณรงค์เรียบค้นหาอย่างเร่งด่วน และแล้วก็เจออยู่บนหลังตู้เสื้อผ้านี่เอง พอหยิบมาปัดฝุ่นทดลองต่อดู อ้าว ยังไช้ได้นี่หว่า..ทันใดนั้นนายณรงค์ ก็ไม่รอช้าเรียบโทรหาลุงสุเวศน์ทันที นายณรงค์เรียบบอกับลุงว่าผมเราเราเตอร์อยู่ผมจะเอาไปติดให้คุณลุงสุเวศ์คุณลุงว่างวันไหนผมจะลงไปบ้านลุงที่จันทบุรีเอง ลุงสุเวศน์ตอบทันทีว่าว่างวันอาทิตย์ ลงมาได้เลยหลังจากนั้นลุงสุเวศน์ก็วางสายโทรศัพย์
ทันใดนั้นพอถึงวันอาทิตย์นายณรงค์ ก็ขับรถจากระยอง มุ่งสู่จังหวัดจันทบุรีทันที พอถึงจุดหมายปลายทางบ้านลุงสุเวศน์ ก็ให้การต้อนรับ อย่างดีเช่นเคย พอไปถึงก็ได้นั่งพักสักระยะหนึ่งนายณรงค์ก็ไม่รอช้าเรียบติดตั้งเราเตอร์ พร้อมทันได้นั้นเริ่มทดลองออกอากาศสถานีวิทยุและทีวีออนไลน์ทันที พอทดลองออกกาสคุณลุงสุเวศน์ก็นั่งยิ้มอยู่ข้างๆไปด้วย เป็นที่ปราบปลื้มเป็นอย่างมาก หลังจากทดลองออกกาศได้สำเร็จได้สักระยะหนึ่ง นายณรงค์ก็เริ่มสอนวิธิปิดเปิดสถานีให้กับคุณลุงสุเวศน์ได้เรียนรู้อย่างเป็นลำดับ พอคุณลุงสุเวศน์ ได้เรียนรู้ได้ระดับหนึ่งก็หยุดมานั่งคุยกันและงานนี้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของคุณลุงสุเวศน์ เสียที หลังจากนั้นพอเวลาเริ่มเย็นลงก็ได้คุยกับลุงสุเวศน์จนเพลิน คุณลงได้เดินลงไปข้างบ้านหายไปสักพักหนึ่ง พอเดินเข้ามาในมือคุณลุงสุเวศน์ ได้ถือน้ำสีแดงใส่ขวดรีเจนซี่มา นายณรงค์ก็ถามลุงว่าในขวดคืออะไร คุณลุงบอกว่ายาดองไงเป็นยาดองที่คุณลุงทำเองกินเอง โดยใช้สมุนไพรสิงหโมราเป็นตัวยา สรรพคุณแก้เจ็บหลัง แก้ปวดแก้เมื่อยได้เป็นอย่างดี เราทำเองกินเองปลอดภัย ลุงสุเวศน์กล่าว พอคุณลุงเล่าเสร็จก็เริ่มทดลองชิมตัวยากันเลยทีเดียว แก้วแรกรดหวานรับประทานง่ายพอชิมกันได้ที่ ไม่รู้ว่าเวลาเท่าไรแล้ว พอมาดูเวลาก็ร่วงเลยไปจนถึงสี่ทุ่ม เห็นทีจะขับกลับไม่ไหวเลยต้องพักบ้านลุงอีกคืนเพราะถ้าขืนขับไปคงไม่เหมาะแน่ๆ ตัดสินใจนอนบ้านลุงทันที
พอตื่นรุ่งเช้าเห็นคุณลุงเปิดเครื่องทดสอบออกอากาศสถานีวิทยุและทีวีออนไลน์ อยู่คนเดียว คุณลุงบอกว่าต้องหัดเปิดปิดก่อนเดียวทำไม่ได้จะได้ถามได้ เดี๋ยวนายณรงค์กลับไประยองแล้วเดี๋ยวเปิดไม่ออกเดี๋ยวลุงแย่ (แล้วลุงก็หัวร่อ)พอคุยกันได้สักพักคุณลุงก็พาเดินเข้าไปหลังบ้าน โดยมีการเตรียมอาหารเช้าไว้ให้เราพร้อมจะรับประทานกันแล้ว ว่าแล้วก็ไม่รอช้าคุณลุงก็หยิบจานช้อนพร้อมตักข้าวมาให้ แล้วก็ลงมือกินอย่างอร่อยเลยทีเดียวพอได้นั่งกินสักพักหนึ่งก็อิ่มกันทั้งคู่ด้วยอาหารมื้อเช้า หลังจากเสร็จกินเสร็จสิ้นคุณลุงสุเวศน์และนายณรงค์ ก็เดินออกจากครัวหลังบ้าน แล้วมานั่งที่คอมพิวเตอร์ตัวที่กำลังทดลองออกอากาศอยู่ อีกที เพื่อที่คุณลุงจะได้ซ้อมการปิดเปิดสถานีวิทยุและทีวีออนไลน์ อย่างสมบูรณ์ พอนั่งคุยกับคุณลุงพอสักพักหนึ่งหลังจากรับประทานอาหารอิ่ม ก็ได้เวลาที่จะขอตัวลุงกลับระยอง เพราะว่าเสร็จภารกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นไปตามที่คุณลุงต้องการ หลังจากนั้นนายณรงค์ก็เดินทางกลับระยองทันที
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://suwet2487.blogspot.com/
ทีวีออนไลน์ http://suwet.blogspot.com หรือ www.thaibansinlapin.com
ณรงค์ ปรีดารัตน์ รายงาน
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nap.or.th/nn/ หรือ http://narongoho.blogspot.com หรือ http://narongoho.wordpress.com
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nap.or.th/nn/ หรือ http://narongoho.blogspot.com หรือ http://narongoho.wordpress.com
ที่มาของภาพลายเส้น สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ - ศิลปินประชาชน
ภาพวาดเล็กๆ ที่ติดตรงมุมขวาด้านบนของเวบแห่งนี้ เ็ป็นเหมือนดังโลโก้ ซึ่งภาพนี้ มีที่มา และมีความหมาย เป็นภาพที่วาดเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2554 โดย โจ เทพประสิทธิ์ รัตนะเรืองโชติ
สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ได้พบกับ โจ เทพประสิทธิ์ รัตนะเรืองโชติ ในงานเปิดตลาดนัด 4 ภาคที่พัทยา เมื่อ 25 ก.พ.2554 ได้เห็นฝีมือการวาดภาพเหมือน หลังจากที่ได้สนทนาพูดคุยกันในช่วงหลังเลิกงานวันนั้น ช่วงสายวันที่ 26 ก.พ.2554 สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ได้บอกให้โจ เทพประสิทธิ์ รัตนะเรืองโชติ วาดภาพเหมือนให้ ซึ่งใช้เวลาวาดไม่นานก็ได้ภาพนี้ออกมา
สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ คิดที่จะนำภาพนี้ไปใช้ประโยชน์หลายอย่าง เช่น ทำปกอัลบั้ม และใช้ในงานอื่นๆตามโอกาส แต่อยากให้วาดกีตาร์ให้สมบูรณ์ ซึ่งในวันนี้ ภาพนี้ติดไว้ที่ประตูบ้าน ที่ ต.แสลง อ.เมือง จันทบุีรี และเขียนข้อความกำกับไว้ด้วย
บันทึกเรื่องราว ที่มาของภาพนี้ ในเวบกลุ่มศิลปะ ดนตรี กวีประชาชน
โจ เทพประสิทธิ์ รัตนะเรืองโชติ กับการวาดภาพเหมือนสุเวศน์ ภู่ระหงษ์
ดาบโบราณและพระครูวินัยธร วัชระ พลญาโน
"ผมกำลังอยากจะสื่อว่า ชาวแสลงจะรักษาดาบนี้ไว้ต่อไป ผมพยายามไปสืบหาข้อมูลจากผู้รู้บางท่าน ก็เสียชีวิตไปแล้ว เค้าบอกว่า คนที่สร้างวัดแสลงคือ เจ้าของดาบเล่มนี้ และฝากดาบนี้ไว้กับวัดแสลง เนื้อเพลงบอกว่า ฝากไว้ให้ลูกหลานดู
"ภาพที่ผมไปรับ กำลังจะบอกว่า หมู่บ้านแสลง จะรักษาดาบทหารกล้า ในภาพผมไปรับจากพระอาจารย์ เวลาผมรับ ผมจะอธิษฐานด้วย ชาวบ้านแสลงเปรียบเสมือนตัวแทนตำบลแสลง จะรักษาดาบทหารกล้า จะขอบูชา จะเก็บไว้ให้ลูกหลานดู..."
"พระที่เห็นในวิดีโอที่มอบดาบให้นั้น คือ พระวัชระ (พระครูวินัยธร วัชระ พลญาโน) อายุของท่านเท่ากับลูกสาวคนโตของผม ตั้งแต่บวชมานี่ก็ปฏิบัติีดีมาตลอด นิ่ง เป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบนะ ทำตัวเ็ป็นกันเองกับทุกคน ลักษณะการเทศน์ของท่านเป็นการเ่ล่าให้้เกิดซึมซับ ไม่มีพิธีรีตรองกันมาก เป็นคติธรรมที่จะสอนคน เล่าเรื่องราวต่างๆที่เป็นสัจธรรม.. ธรรมะของพระพุทธเจ้า..."
"ภาพที่ผมไปรับ กำลังจะบอกว่า หมู่บ้านแสลง จะรักษาดาบทหารกล้า ในภาพผมไปรับจากพระอาจารย์ เวลาผมรับ ผมจะอธิษฐานด้วย ชาวบ้านแสลงเปรียบเสมือนตัวแทนตำบลแสลง จะรักษาดาบทหารกล้า จะขอบูชา จะเก็บไว้ให้ลูกหลานดู..."
"พระที่เห็นในวิดีโอที่มอบดาบให้นั้น คือ พระวัชระ (พระครูวินัยธร วัชระ พลญาโน) อายุของท่านเท่ากับลูกสาวคนโตของผม ตั้งแต่บวชมานี่ก็ปฏิบัติีดีมาตลอด นิ่ง เป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบนะ ทำตัวเ็ป็นกันเองกับทุกคน ลักษณะการเทศน์ของท่านเป็นการเ่ล่าให้้เกิดซึมซับ ไม่มีพิธีรีตรองกันมาก เป็นคติธรรมที่จะสอนคน เล่าเรื่องราวต่างๆที่เป็นสัจธรรม.. ธรรมะของพระพุทธเจ้า..."
เคล็ดไม่ลับ อายุ 67 ปียังไม่อัลไซเมอร์
หลายคนเมื่ออายุมากขึ้น มักจะหลงลืมหลายอย่าง แต่ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ซึ่งปัจจุบันอายุ 67 ปี ยังคิด เขียนเพลง บทกวี มีเรื่องเล่ามากมาย ที่นำมาถ่ายทอดให้หลายคนได้เรียนรู้ ได้แง่คิดมากมาย ความทรงจำยังดีเยี่ยม แล้ว "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" มีเคล็ดลับอย่างไร ถึงไม่เป็นอัลไซเมอร์
"เคล็ด (ไม) ่ลับ คือ ต้องฝึกตนเองอยู่ตลอด สมองจะต้องฝึกคิดอยู่ตลอด.."
ถึงแม้ว่า "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" คิดงานเขียนเพลง และบทกวีได้ทุกวัน แต่หลายสิ่งหลายอย่าง เขาก็หลงลืมเช่นกัน อาทิ สิ่งของบางอย่าง จำไม่ได้ว่าวางไว้ตรงไหนในบ้าน ทำให้ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ต้องปรับพฤติกรรมหลายอย่าง การวางสิ่งของจะไม่วางในที่ลับสายตา เพราะจะหาไม่เจอ หลายครั้งที่คนในครอบครัวต้องคอยเตือนและช่วยหาสิ่งของที่วางไว้
การฝึกตนเองอยู่เสมอ ทำให้ไม่เป็นอัลไซเมอร์ หรือ ลืมเลือนไปทั้งหมด นี่ืคือ เคล็ด (ไม่) ลับ ของ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์"
"เคล็ด (ไม) ่ลับ คือ ต้องฝึกตนเองอยู่ตลอด สมองจะต้องฝึกคิดอยู่ตลอด.."
ถึงแม้ว่า "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" คิดงานเขียนเพลง และบทกวีได้ทุกวัน แต่หลายสิ่งหลายอย่าง เขาก็หลงลืมเช่นกัน อาทิ สิ่งของบางอย่าง จำไม่ได้ว่าวางไว้ตรงไหนในบ้าน ทำให้ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ต้องปรับพฤติกรรมหลายอย่าง การวางสิ่งของจะไม่วางในที่ลับสายตา เพราะจะหาไม่เจอ หลายครั้งที่คนในครอบครัวต้องคอยเตือนและช่วยหาสิ่งของที่วางไว้
การฝึกตนเองอยู่เสมอ ทำให้ไม่เป็นอัลไซเมอร์ หรือ ลืมเลือนไปทั้งหมด นี่ืคือ เคล็ด (ไม่) ลับ ของ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์"
การขยายงาน สร้างคน ต่อยอดกลุ่มดินรักษ์ฟ้าในแบบของ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์"
หากผลงานเปรียบเสมือนต้นไม้ที่ให้ดอกผล ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องเติบโตก้าวหน้าตามวันเวลาที่ผ่านไป การทำงานทุกอย่างก็เ่ช่นกัน ผลงานที่ได้ย่อมนำมาขยายผลได้ เช่นเดียวกับผลไม้ที่มีเมล็ด ที่พร้อมจะเติบโตเป็นต้นกล้า เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม
หลังจากที่กลุ่มดินรักษ์ฟ้า เดินทางมาทำสกู๊ป ค้นคนดีของพ่อหลวงในช่วง 18-19 มิถุนายน 2554 ทำให้ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" รู้จักและเข้าใจถึงเป้าหมายและรูปแบบการทำงานของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ได้มองไกลต่อไปถึงวันข้างหน้าว่า กลุ่มคนที่มีความตั้งใจที่ดีอย่างนี้ ควรที่จะส่งเสริมบ่มเพาะให้เติบโต เพิ่มจำนวนคนที่มีความคิดตรงกัน ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในลักษณะนี้บ้าง
เมื่อมีเมล็ดพันธุ์ที่ดี ก็ต้องนำไปไว้ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อใ้้ห้เิกิืดต้นกล้าใหม่ ขยายพันธุ์เติบโตเป็นไม้ใหญ่ ทดแทนไม้รุ่นเก่าต่อไปในอนาคต
เมล็ดพันธุ์ที่ดีของดินรักษ์ฟ้า คือ ความคิดและเจตนาที่ดีั "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ได้นำเรื่องราวของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าไปพูดคุยแนะนำให้ ผอ.โรงเรียน และผู้ที่ถูกคัดเลือกว่า มีแนวคิดตรงกัน และได้นำผลงานของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าเช่น ภาพถ่ายของในหลวง ไปใช้ในการเป็นวิทยากร เจาะกลุ่มเป้าหมายให้เกิดความสนใจและอยากเข้าร่วมกิจกรรมกับดินรักษ์ฟ้า
กลุ่มเป้าหมายที่ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" เข้าไปนำร่องแนะนำไว้ ตั้งแต่ปลายมิถุนายน 2554 คือ เจ้าหน้าที่ในเรือนจำ , โรงเรียนเทศบาลและกลุ่มเยาวชน โดยกระตุ้นให้เกิดความสนใจ อย่างเช่น การรับปากกับกลุ่มเยาวชนว่า จะช่วยแต่งเพลงของกลุ่มให้ แต่ต้องเป็นคนดี, รักในหลวง, นำเพลงกลุ่มดินรักษ์ฟ้าไปร้อง และร่วมกิจกรรมกับกลุ่มดินรักษ์ฟ้าในโอกาสที่เหมาะสม
แนวคิดขยายงาน สร้างคนในแบบของ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" อยากจะสร้างคนให้มีคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ ถ้ามากเกินไปแต่ขาดคุณภาพ ก็ไม่ดี ซึ่งการไปพดให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มดินรักษ์ฟ้านั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการทำงานเพื่อสังคมในช่วงเวลาที่ผ่านมาของ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ที่หลายคนเข้าใจและเชื่อมั่นในความตั้งใจและมุ่งมั่นในการทำงาน เมื่อไปแนะนำข้อมูลของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ทำให้เกิดการเปิดรับทันที โดยได้ให้ข้อมูลและทาบทามเข้าร่วมกิจกรรมกับดินรักษ์ฟ้า เพื่อให้มีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน เป็นการสร้างรูปแบบและมาตรฐานการทำงานต่อไป เป็นการพัฒนาึคนเก่า สร้างคนใหม่ และได้ศึกษารูปแบบการทำงานร่วมกัน อันจะทำให้การขยายงานและสร้างคนใหม่ เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น
หลังจากที่กลุ่มดินรักษ์ฟ้า เดินทางมาทำสกู๊ป ค้นคนดีของพ่อหลวงในช่วง 18-19 มิถุนายน 2554 ทำให้ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" รู้จักและเข้าใจถึงเป้าหมายและรูปแบบการทำงานของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ได้มองไกลต่อไปถึงวันข้างหน้าว่า กลุ่มคนที่มีความตั้งใจที่ดีอย่างนี้ ควรที่จะส่งเสริมบ่มเพาะให้เติบโต เพิ่มจำนวนคนที่มีความคิดตรงกัน ได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมในลักษณะนี้บ้าง
เมื่อมีเมล็ดพันธุ์ที่ดี ก็ต้องนำไปไว้ในสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อใ้้ห้เิกิืดต้นกล้าใหม่ ขยายพันธุ์เติบโตเป็นไม้ใหญ่ ทดแทนไม้รุ่นเก่าต่อไปในอนาคต
เมล็ดพันธุ์ที่ดีของดินรักษ์ฟ้า คือ ความคิดและเจตนาที่ดีั "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ได้นำเรื่องราวของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าไปพูดคุยแนะนำให้ ผอ.โรงเรียน และผู้ที่ถูกคัดเลือกว่า มีแนวคิดตรงกัน และได้นำผลงานของกลุ่มดินรักษ์ฟ้าเช่น ภาพถ่ายของในหลวง ไปใช้ในการเป็นวิทยากร เจาะกลุ่มเป้าหมายให้เกิดความสนใจและอยากเข้าร่วมกิจกรรมกับดินรักษ์ฟ้า
กลุ่มเป้าหมายที่ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" เข้าไปนำร่องแนะนำไว้ ตั้งแต่ปลายมิถุนายน 2554 คือ เจ้าหน้าที่ในเรือนจำ , โรงเรียนเทศบาลและกลุ่มเยาวชน โดยกระตุ้นให้เกิดความสนใจ อย่างเช่น การรับปากกับกลุ่มเยาวชนว่า จะช่วยแต่งเพลงของกลุ่มให้ แต่ต้องเป็นคนดี, รักในหลวง, นำเพลงกลุ่มดินรักษ์ฟ้าไปร้อง และร่วมกิจกรรมกับกลุ่มดินรักษ์ฟ้าในโอกาสที่เหมาะสม
แนวคิดขยายงาน สร้างคนในแบบของ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" อยากจะสร้างคนให้มีคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ ถ้ามากเกินไปแต่ขาดคุณภาพ ก็ไม่ดี ซึ่งการไปพดให้ข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มดินรักษ์ฟ้านั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการทำงานเพื่อสังคมในช่วงเวลาที่ผ่านมาของ "สุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ที่หลายคนเข้าใจและเชื่อมั่นในความตั้งใจและมุ่งมั่นในการทำงาน เมื่อไปแนะนำข้อมูลของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า ทำให้เกิดการเปิดรับทันที โดยได้ให้ข้อมูลและทาบทามเข้าร่วมกิจกรรมกับดินรักษ์ฟ้า เพื่อให้มีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน เป็นการสร้างรูปแบบและมาตรฐานการทำงานต่อไป เป็นการพัฒนาึคนเก่า สร้างคนใหม่ และได้ศึกษารูปแบบการทำงานร่วมกัน อันจะทำให้การขยายงานและสร้างคนใหม่ เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้น
บทกวี "แหล่งโบราณคดีบ้านคลองบอน" (๒)
* จะกล่าวถึง หลักฐาน ที่ค้นพบ
หลุมหนึ่ง พบหลักฐาน ดังนี้
ระดับผิว หน้าดิน เห็นทันที
ภาชนะ ดินเผามี อยู่ทั่วไป
* มีหินปูน หินแม่น้ำ อยู่บ้าง
ขุดลึกไป สามสิบเซ็น เห็นจะได้
เครื่องดินเผา กำไลหิน ดินเผาไฟ
กระดูกสัตว์ เปลือกหอย น้ำจืดมี
* เครื่องมือ สะเก็ดหิน เครื่องมือปลายแหลม
เศษกระดูก เผาไฟ พบหลายที่
วัตถุร่วม โครงกระดูก ที่มี
ภาชนะดินเผา ที่แตกหัก อยู่ทั่วไป
* ชิ้นส่วนของ ลูกธนู ทำด้วยหิน
ขวานหินขัด เหมือนรวบรวม ตั้งใจให้
เป็นการมอบ เป็นเครื่องมือ ให้ผู้ตาย
หรืออาจเป็น เครื่องมือใช้ ของผู้ตายเอง
* กำไลหินอ่อน สีขาวสวม ใส่แขนขวา
พร้อมลูกปัด จัดมา ดูแสงเปร่ง
เป็นการไว้ อาลัย ให้กันเอง
ดังบทเพลง รักกัน นิรันดร
หลุมหนึ่ง พบหลักฐาน ดังนี้
ระดับผิว หน้าดิน เห็นทันที
ภาชนะ ดินเผามี อยู่ทั่วไป
* มีหินปูน หินแม่น้ำ อยู่บ้าง
ขุดลึกไป สามสิบเซ็น เห็นจะได้
เครื่องดินเผา กำไลหิน ดินเผาไฟ
กระดูกสัตว์ เปลือกหอย น้ำจืดมี
* เครื่องมือ สะเก็ดหิน เครื่องมือปลายแหลม
เศษกระดูก เผาไฟ พบหลายที่
วัตถุร่วม โครงกระดูก ที่มี
ภาชนะดินเผา ที่แตกหัก อยู่ทั่วไป
* ชิ้นส่วนของ ลูกธนู ทำด้วยหิน
ขวานหินขัด เหมือนรวบรวม ตั้งใจให้
เป็นการมอบ เป็นเครื่องมือ ให้ผู้ตาย
หรืออาจเป็น เครื่องมือใช้ ของผู้ตายเอง
* กำไลหินอ่อน สีขาวสวม ใส่แขนขวา
พร้อมลูกปัด จัดมา ดูแสงเปร่ง
เป็นการไว้ อาลัย ให้กันเอง
ดังบทเพลง รักกัน นิรันดร
บทกวี "แหล่งโบราณคดีบ้านคลองบอน" (๓)
* ยิ่งขุดลึก ลงไป ยิ่งได้เห็น
การขุดค้น ยิ่งเป็น สีสัน
ดูเครื่องปั้น ดินเผา ฝีมืองาน
การตกแต่ง ลวดลายนั้น เริ่มพัฒนา
* ลวดลายเน้น ใช้การขุด และกดจุด
จากสิ่งของ เครื่องมือ ที่จัดหา
เป็นก้อนหิน เปลือกหอย ไม้ฝนมา
แล้วสร้างสรร จินตนา ปัญญามี
* แต่การเผา อุณหภูมิ ยังต่ำ
เนื้อดินเผา ยังไม่สม่ำ เสมอที่
แกนกลางใน เนื้อดิน ไม่สุกดี
ชำรุดง่าย ใช้แต่ละที่ ต้องระวัง
การขุดค้น ยิ่งเป็น สีสัน
ดูเครื่องปั้น ดินเผา ฝีมืองาน
การตกแต่ง ลวดลายนั้น เริ่มพัฒนา
* ลวดลายเน้น ใช้การขุด และกดจุด
จากสิ่งของ เครื่องมือ ที่จัดหา
เป็นก้อนหิน เปลือกหอย ไม้ฝนมา
แล้วสร้างสรร จินตนา ปัญญามี
* แต่การเผา อุณหภูมิ ยังต่ำ
เนื้อดินเผา ยังไม่สม่ำ เสมอที่
แกนกลางใน เนื้อดิน ไม่สุกดี
ชำรุดง่าย ใช้แต่ละที่ ต้องระวัง
ผลงานวิดีโอของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า สกู๊ป ค้นคนดีของพ่อ "ตัวตนบนเส้นทางปราชญ์ชาวบ้าน ของสุเวศน์ ภู่ระหงษ์"
ผลงานวิดีโอของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า กับสกู๊ป ค้นคนดีของพ่อ "ตัวตนบนเส้นทางปราชญ์ชาวบ้าน ของสุเวศน์ ภู่ระหงษ์" ซึ่งได้มาสัมภาษณ์และเก็บข้อมูลรายละเอียดเมื่อช่วง 19 มิถุนายน 2554 ที่ จ.จันทบุรี และนำมาผลิตเป็นวิดีโอเผยแพร่ทางสื่อต่างๆของกลุ่มดินรักษ์ฟ้า เมื่อช่วงต้นเดือน กรกฎาคม 2554
ตัวตนบนเส้นทางปราชญ์ชาวบ้าน ของสุเวศน์ ภู่ระหงษ์
พอเพียงคือ นิยามที่มีความหมายยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ผู้ชายอายุ60กว่า คนนี้ ทุ่มเททำมาทั้งชีวิต ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านบทพิสูจน์มาแล้วมากมาย และไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้ง เขาก็ยืนหยัดลุกขึ้นสู้ใหม่ ได้เสมอ ด้วยเพราะมีวิถีทางที่มั่นคง จากศรัทธาในน้ำพระทัยของในหลวง เป็นสิ่งยึดเหนี่ยว เป็นทุกๆกำลังใจยามสิ้นหวัง เป็นแสงส่องทางให้ย่ำเดิน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://mblog.manager.co.th/kokoseven/th-114614/
***กลุ่มดินรักษ์ฟ้า (DinRakFah***
ตัวตนบนเส้นทางปราชญ์ชาวบ้าน ของสุเวศน์ ภู่ระหงษ์
พอเพียงคือ นิยามที่มีความหมายยิ่งใหญ่ที่สุด ที่ผู้ชายอายุ60กว่า คนนี้ ทุ่มเททำมาทั้งชีวิต ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านบทพิสูจน์มาแล้วมากมาย และไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้ง เขาก็ยืนหยัดลุกขึ้นสู้ใหม่ ได้เสมอ ด้วยเพราะมีวิถีทางที่มั่นคง จากศรัทธาในน้ำพระทัยของในหลวง เป็นสิ่งยึดเหนี่ยว เป็นทุกๆกำลังใจยามสิ้นหวัง เป็นแสงส่องทางให้ย่ำเดิน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
http://mblog.manager.co.th/kokoseven/th-114614/
***กลุ่มดินรักษ์ฟ้า (DinRakFah***
เพลง คิดถึงแม่ กับ สุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ในแบบ ดินรักษ์ฟ้า
เพลง "คิดถึงแม่" เป็นเพลงที่
คุณลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ศิลปินประชาชน
แต่งขึ้นเพื่อมอบแด่คุณแม่ที่ได้จากไป
และในวันที่ 11 ส.ค. 2554 จะถึงนี้
คุณลุงสุเวศน์จะนำเพลง "คิดถึงแม่" ไปขับร้อง
ในโครงการ "ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง" ครั้งที่ 3
ณ ร.ร. ชุมชนวัดเขาไม้แก้ว จ.ชลบุรี เพื่อร่วมแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที แด่ “แม่” ในโอกาสสัปดาห์วันแม่แห่งชาติอีกด้วย
เนื้อร้อง/ทำนองโดย สุเวศน์ ภู่ระหงษ์
ดนตรีโดย Sako@Sako Dinrakfah Love King (ดินรักษ์ฟ้า)
คุณลุงสุเวศน์ ภู่ระหงษ์ ศิลปินประชาชน
แต่งขึ้นเพื่อมอบแด่คุณแม่ที่ได้จากไป
และในวันที่ 11 ส.ค. 2554 จะถึงนี้
คุณลุงสุเวศน์จะนำเพลง "คิดถึงแม่" ไปขับร้อง
ในโครงการ "ขอเป็นคนดีเพื่อพ่อหลวง" ครั้งที่ 3
ณ ร.ร. ชุมชนวัดเขาไม้แก้ว จ.ชลบุรี เพื่อร่วมแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที แด่ “แม่” ในโอกาสสัปดาห์วันแม่แห่งชาติอีกด้วย
เนื้อร้อง/ทำนองโดย สุเวศน์ ภู่ระหงษ์
ดนตรีโดย Sako@Sako Dinrakfah Love King (ดินรักษ์ฟ้า)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)